
รีวิวหมวกเทพ AGV : PISTA GP PROJECT 46 V2.0 ฉบับใช้งานจริง ไม่อิงสปอนเซอร์
February 22, 2019สวัสดีครับ วันนี้มีหมวกรุ่นหนึ่งอยากจะมารีวิวให้ดูกัน ซึ่งหลายคนบอกว่ามันช่างเท่และเทพซะเหลือเกิน เพราะราคามันแพงมากกกกก เรียกได้ว่าซื้อหมวกยี่ห้ออื่นได้ 2-3 ใบเลยทีเดียว นั่นก็คือ…
AGV : PISTA GP PROJECT 46 V2.0
รุ่นที่ผมได้มาเป็นรุ่นที่ 2 ซึ่งจะเป็นสีดำด้านสนิท ใช้มาได้สักพักละ พอจะจับความรู้สึกได้พอสมควร ก็เลยจะมาเล่าสู่กันฟัง เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า

AGV เป็นยี่ห้อที่ทุกคนรู้จักกันดี เพราะเป็นหนึ่งใน Top 5 แบรนด์หมวกระดับโลกที่ก่อตั้งมานานกว่า 70 ปีแล้ว แต่ใครจะรู้ว่า AGV นั้นย่อมาจาก Amisano Gino Valenza ซึ่งก็คือชื่อผู้ก่อตั้งบริษัท Gino Amisano ส่วน Valenza ก็คือเมืองที่ตั้งบริษัทนั่นเอง อันนี้ฝากไว้เป็นเกร็ดความรู้ละกันเนอะ
ทีนี้มาดูตัวหมวกกันบ้าง
PISTA GP เป็นหมวกที่พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น GP Tech ที่พัฒนาเพื่อให้ Valentino Rossi ใช้ในการแข่งขัน Moto GP โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าถอดแบบจากหัว Rossi เลยทีเดียว โดยจุดเด่นที่เปลี่ยนไปจะถูกเขียนไว้ข้างหมวกให้เห็นชัดๆ ว่าเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก มุมมอง ความลู่ลม ความนุ่มสบาย และอีกมากมาย

วัสดุที่ใช้ในการผลิตเปลือกหมวกนั้น จะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ 100% ทำให้มีน้ำหนักเบามากถึงมากที่สุด ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในหมวกมีจำนวนค่อนข้างน้อย (นวมภายในหมวกยังมีแค่ 2 ชิ้น) ประมาณว่าใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อลดน้ำหนักให้ได้มากที่สุด แต่มีการเสริมความแข็งแรงในจุดที่จำเป็น เช่น เพิ่มความหนาของชิลด์ด้านหน้าเป็น 3 มม. ซึ่งน่าจะหนาที่สุดเท่าที่เคยเจอแล้วล่ะ ฉะนั้น เรื่องความแข็งแรง ความปลอดภัย หายห่วง มาตรฐานทุกตัวในโลกนี้สอบผ่านมาหมดแล้วครับ

และจุดเด่นที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ สปอยเลอร์ด้านหลัง ที่ยื่นยาวออกมาอย่างโดดเด่นเห็นแต่ไกล ทำให้หมวกดูสวยเพรียว เท่ขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่งไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังช่วยเพิ่มแรงกดหมวกไม่ให้ลอยขึ้นที่ความเร็วสูง รวมถึงช่วยจัดการกระแสลมให้ไหลผ่านหัวคนขับอย่างลื่นไหลออกไปด้านหลังโดยไม่เกิดลมหวนด้านหลังหมวก ทำให้หมวกมีความนิ่ง ไม่เกิดอาการส่ายแต่อย่างใด
มาดูการใช้งานจริงบ้างดีกว่า
หมวกที่ผมได้มาเป็นรุ่น Asian Fit ซึ่งจะมีการเสริมโฟมและฟองน้ำในบางจุด เพื่อให้เข้ากับรูปทรงหัวคนเอเชียโดยเฉพาะ มีความนุ่ม ใส่สบายตามมาตรฐานหมวกตัวท็อป แต่มีข้อติคือ ฟองน้ำค่อนข้างบีบแก้ม ทำให้ปากจู๋อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็เข้าใจได้ว่าหมวกสไตล์ Racing ก็จะเป็นแบบนี้แหละ ต้องบีบๆ แน่นๆ เวลาขับเร็วจะได้ไม่ส่าย แต่ส่วนหัวหรือขมับไม่โดนบีบหรือรู้สึกปวดแต่อย่างใด ใส่นานๆ ก็ยังสบาย แต่ภายในไม่มีช่องสำหรับใส่ลำโพง Bluetooth ต้องถอดฟองน้ำตรงช่องหูออก เพื่อจะได้ใส่ลำโพงลงไปแทนที่ ก็ถือว่าใช้งานได้ดี เสียงดังฟังชัด ไม่กดหูครับ

การระบายอากาศ
ตัวหมวกมีการเจาะช่องรับลมไว้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นตรงหน้าผาก ตรงปาก และด้านหลัง แต่ถึงขนาดนั้นก็ไม่รู้สึกเย็นเท่าที่ควร ปกติเวลาขับ ผมจะแง้มชิลด์ด้านล่างไว้นิดนึงเพื่อให้ลมเข้า จะได้เย็นๆ แต่หมวกรุ่นนี้ลมเข้าค่อนข้างน้อย ไม่ค่อยรู้สึกว่ามีลมปะทะหน้าเหมือนยี่ห้ออื่น ทำให้รู้สึกร้อนแผ่วๆ บริเวณใบหน้า และข้อเสียที่สำคัญอีกอย่างคือ ช่องรับลมด้านบนไม่มีฝาปิด คือเปิดแล้วเปิดเลย ถ้าจะปิดต้องใช้แผ่นยางที่แถมให้เอามาปิด ซึ่งหมายความว่าระหว่างการขับ จะไม่สามารถเปิดปิดได้เลย อันนี้ถือว่าไม่สะดวกเอามากๆ ถ้าเจอฝนตกก็หัวเปียกล่ะครับ

การเก็บเสียง
ถือว่าเป็นหมวกที่เก็บเสียงดีมากครับ เสียงลม เสียงท่อ หมูหมากาไก่ เก็บมาหมดครบทุกเม็ด (555) มิน่าทำไมแถมจุกอุดหูมาด้วย และด้วยความที่ช่องรับลมเยอะ ถ้าขับเกิน 80 เสียงลมมาเต็ม ดังสนั่นลั่นโลก เพลงเพลิงไม่ต้องฟังกันแล้วครับ ฟังเสียงลมอย่างเดียวพอ
ความลู่ลม
ต้องบอกว่านี่คือจุดเด่นของหมวกรุ่นนี้เลย เป็นหมวกที่ลู่ลมแหวกอากาศดีมาก บวกกับน้ำหนักที่เบามาก ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่หมวกเลย อันนี้พูดจริง ไม่ได้อวยเลยนะ การหันซ้าย หันขวา ก้มหรือเงย แทบไม่มีอาการสะบัด ใส่นานๆ ขับที่ความเร็วสูงไม่ปวดคอเลย สมกับเป็นหมวกสนามจริงๆ

มุมมอง
ทางผู้ผลิตแจ้งว่ามีการปรับปรุงเพิ่มมุมมองทั้งแนวตั้งและแนวนอน แต่จากการใช้งานจริงพบว่าไม่ได้แตกต่างจากยี่ห้ออื่นสักเท่าไร ด้านข้างอาจจะกว้างจริง แต่ที่แย่คือ มีจุดบอดตรงมุมขวาล่างและซ้ายล่าง เวลาชำเลืองมองด้วยหางตา จะมองไม่เห็นรถที่อยู่ด้านข้างเยื้องไปด้านหลัง ทำให้ต้องหันไปมองมากกว่าปกติ อันนี้ต้องระวังมากๆ และกลไกชิลด์หน้าไม่ค่อยแข็งแรง พอใช้ไปสักพักจะเปิดค้างไม่ได้ จะชอบหล่นลงมาตลอด อันนี้ต้องทำใจ ของแท้เป็นทุกใบครับ (555)
สรุปเลยละกัน
ข้อดี
- เบามาก
- ลู่ลมดีมาก
- หล่อมากกกก
- เหมาะสำหรับใช้ในสนามหรือขี่หล่อๆ เท่านั้น
ข้อเสีย
- บีบแก้ม
- ค่อนข้างร้อน ลมไม่เข้าหน้า
- เก็บเสียงแย่ เสียงลมดังมาก
- มุมมองด้านข้างมีจุดบอด
- เปิด/ปิดช่องรับลมไม่ได้
- กลไกชิลด์หน้าไม่แข็งแรง
- ราคาแพง
- อะไหล่ก็แพงด้วย
- ไม่เหมาะสำหรับออกทริปหรือชีวิตประจำวัน
ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ชอบ/ไม่ชอบยังไง แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ
แถมอีกนิด
ตอนนี้มีของก๊อปออกมาแล้วนะครับ ถอดแบบออกมาแทบจะ 99% มองผ่านๆ แทบดูไม่ออกถ้าไม่จับมาเทียบกับตรงๆ แถมราคาก็ถูกกว่า 20 เท่า เอาไว้ใส่ขี่หล่อๆ ได้เลย แต่ถ้าจะเอามาใช้จริงจัง ไม่แนะนำนะครับ ของแบบนี้คุณภาพตามราคาจริงๆ